ร้านเสริมสวย
จัดการคิวนัดหมายและคอมมิชชั่นพนักงานร้านเสริมสวยง่ายๆ ด้วย SilomPOS & Google Calendar
ร้านเสริมสวยต้องการระบบจัดการตารางนัดหมายที่ใช้งานง่าย ติดตามยอดขาย และคำนวณคอมมิชชั่นได้อย่างถูกต้อง บทความนี้แนะนำวิธีการผสานรวม Google Calendar, SilomPOS และ CRM เพื่อช่วยให้ร้านเสริมสวยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Google Calendar: เครื่องมือจัดการตารางนัดหมายสำหรับร้านเสริมสวย
สร้างปฏิทินสำหรับพนักงาน:
- เข้าสู่ระบบ Google Calendar: เจ้าของร้านสามารถสร้างปฏิทินให้พนักงาน โดยใช้บัญชี Google ของร้าน หรือพนักงานสามารถสร้างเองได้ (โดยเจ้าของร้านมีสิทธิ์ดู/แก้ไข)
- สร้างปฏิทินใหม่: คลิกที่ปุ่ม “+” ข้าง “ปฏิทินอื่นๆ” แล้วเลือก “สร้างปฏิทินใหม่”
- ตั้งชื่อปฏิทิน: ตั้งชื่อปฏิทินตามชื่อพนักงาน เช่น “ตารางนัดหมาย – ช่างเจน”
- ตั้งค่าการแชร์: แชร์ปฏิทินกับพนักงานคนนั้นๆ (ให้สิทธิ์ดูอย่างเดียว หรือแก้ไขได้) และกับพนักงานต้อนรับ (ให้สิทธิ์ดูอย่างเดียว)
- บันทึกนัดหมาย: เมื่อลูกค้าจองคิว ให้เพิ่มข้อมูลในปฏิทินของพนักงาน เช่น
- ชื่อลูกค้า: (ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์หรือ LINE ID ของลูกค้าไว้ด้วย)
- บริการ: เช่น ตัดผมชาย, ทำสีผม, ต่อเล็บ PVC
- ระยะเวลา: (ประมาณการเวลา เช่น 2 ชั่วโมง เพื่อให้เห็นภาพรวมของตาราง)
- (เสริม) ใช้สีที่แตกต่างกัน เพื่อแยกประเภทบริการ
- บล็อกเวลา: ใช้ฟังก์ชัน “ไม่อยู่ที่ร้าน” หรือ “ไม่ว่าง” ใน Google Calendar เพื่อบล็อกเวลาพัก เบรค เวลาอบรม หรือวันหยุดของพนักงาน
ดูตารางรวม: พนักงานต้อนรับสามารถดูปฏิทินของพนักงานทุกคน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของพนักงาน และจัดการคิวนัดหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
SilomPOS: บันทึกยอดขายและ CRM
แบบที่ 1: พนักงานคนเดียวให้บริการทุกอย่าง:
- SilomPOS: บันทึกยอดขายและบริการ
- สร้าง “พนักงาน” และ “บริการ” เป็นสินค้า:
- พนักงาน: ใน SilomPOS ให้เพิ่มชื่อพนักงานเป็น “สินค้า” เช่น “ช่างเจน” ราคาจะเป็น 300 บาท
- บริการ: เพิ่มบริการต่างๆ เป็น “สินค้า” เช่น “ตัดผม” “ทำสีผม” “ต่อเล็บ PVC” กำหนดราคาตามบริการ
- บันทึกการขาย: เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ:
- เลือก “พนักงาน”: ใน SilomPOS เลือกชื่อพนักงานที่ให้บริการ
- เลือก “บริการ”: เลือกบริการที่ลูกค้าใช้
- เพิ่มสินค้าอื่นๆ: (ถ้ามี) เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม หรืออุปกรณ์ทำเล็บ
- SilomPOS จะบันทึกข้อมูลการขาย: ระบบจะบันทึกข้อมูลการขาย รวมถึงพนักงานที่ให้บริการ และบริการที่ลูกค้าซื้อ
- สร้าง “พนักงาน” และ “บริการ” เป็นสินค้า:
- CRM ใน SilomPOS: เก็บข้อมูลลูกค้า
- เพิ่มข้อมูลลูกค้า: เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ให้เพิ่มข้อมูลลงใน Silom CRM เช่น
- ชื่อ
- เบอร์โทรศัพท์
- LINE ID
- ประวัติการใช้บริการ
- ดูข้อมูลลูกค้า: คุณสามารถดูข้อมูลลูกค้าได้ทั้งในแอปพลิเคชั่น SilomPOS และแดชบอร์ด
- ขายโปร: สร้างคูปองส่วนลด โปรโมชั่น หรือแพ็คเกจ และขายให้กับลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย
- เพิ่มข้อมูลลูกค้า: เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ให้เพิ่มข้อมูลลงใน Silom CRM เช่น
- รายงานและการคำนวณคอมมิชชั่น:
- ดูรายงานยอดขาย: SilomPOS สามารถสร้างรายงานยอดขาย แยกตามพนักงาน และรายงานยอดขายของบริการแต่ละรายการ
- ตรวจสอบข้อมูลกับ Google Calendar: ตรวจสอบข้อมูลใน Google Calendar เพื่อยืนยันบริการที่พนักงานให้ และความถูกต้องของรายงานยอดขาย
แบบที่ 2: ลูกค้า 1 คน ใช้บริการหลายอย่างจากพนักงานหลายคน:
- สร้าง “สินค้า” สำหรับบริการของพนักงานแต่ละคน:
- แยกตามพนักงาน: ใน SilomPOS ให้สร้าง “สินค้า” แยกสำหรับบริการของพนักงานแต่ละคน เช่น
- “สระ-ไดร์ (พี่หน่อย)”
- “ทำเล็บเจล (น้องฝน)”
- “ต่อขนตา (พี่แพร)”
- กำหนดราคา: ตั้งราคาสำหรับแต่ละบริการ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ หรือระดับของพนักงาน
- แยกตามพนักงาน: ใน SilomPOS ให้สร้าง “สินค้า” แยกสำหรับบริการของพนักงานแต่ละคน เช่น
- บันทึกการขายและเลือก “สินค้า” ตามพนักงาน:
- เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ:
- เลือกพนักงาน: ใน SilomPOS เลือกพนักงานที่ให้บริการลูกค้า
- เลือก “สินค้า”: เลือก “สินค้า” ที่ตรงกับบริการและพนักงาน เช่น หากลูกค้าเลือก “สระ-ไดร์” กับ “พี่หน่อย” ให้เลือก “สินค้า” ที่ชื่อ “สระ-ไดร์ (พี่หน่อย)”
- ระบบจะบันทึกข้อมูล: SilomPOS จะบันทึกข้อมูลการขายโดยอัตโนมัติ โดยแยกตามพนักงานที่ให้บริการ
- เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ:
- คำนวณคอมมิชชั่นจากรายงาน SilomPOS:
- ดูรายงานยอดขาย: ใช้ SilomPOS เพื่อดูรายงานยอดขายของพนักงานแต่ละคน โดยเลือกช่วงเวลาที่ต้องการ (เช่น รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน)
- คำนวณคอมมิชชั่น: คำนวณคอมมิชชั่นของพนักงานแต่ละคน โดยอ้างอิงจาก “สินค้า” ที่เป็นบริการของพวกเขา
- เปอร์เซ็นต์: คูณยอดขายของ “สินค้า” นั้นๆ ด้วยเปอร์เซ็นต์คอมมิชชั่นที่กำหนดไว้
- จำนวนเงินคงที่: ใช้จำนวนเงินคงที่ที่กำหนดไว้สำหรับบริการนั้นๆ
ข้อดี:
- แม่นยำ: คำนวณคอมมิชชั่นได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยอ้างอิงจากยอดขายของแต่ละพนักงาน
- โปร่งใส: พนักงานสามารถตรวจสอบยอดขายและคอมมิชชั่นของตัวเองได้
- ง่ายต่อการจัดการ: ไม่ต้องบันทึกข้อมูลด้วยตนเอง ลดความผิดพลาด
ตัวอย่าง:
ร้านเสริมสวยมีพนักงาน 2 คน: พี่หน่อย (ทำผม) และน้องฝน (ทำเล็บ)
- พี่หน่อยคิดคอมมิชชั่น 20% จากยอดขาย “สระ-ไดร์ (พี่หน่อย)”
- น้องฝนคิดคอมมิชชั่น 100 บาท ต่อการทำ “เล็บเจล (น้องฝน)”
เมื่อสิ้นเดือน ดูรายงาน SilomPOS พบว่า
- “สระ-ไดร์ (พี่หน่อย)” มียอดขาย 5,000 บาท
- “เล็บเจล (น้องฝน)” ขายได้ 10 ครั้ง
คำนวณคอมมิชชั่น:
- พี่หน่อย: 5,000 บาท x 20% = 1,000 บาท
- น้องฝน: 10 ครั้ง x 100 บาท = 1,000 บาท
การใช้ SilomPOS ร่วมกับการเพิ่ม “สินค้า” สำหรับบริการของพนักงาน ช่วยให้คุณคำนวณคอมมิชชั่นได้ง่าย รวดเร็ว และถูกต้อง โดยไม่ต้องเสียเวลาบันทึกข้อมูลด้วยตนเอง
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- สร้างสเปรดชีต: สร้างสเปรดชีตเพื่อติดตามคอมมิชชั่นของพนักงาน โดยบันทึกชื่อ วันที่ บริการ ยอดขาย อัตราคอมมิชชั่น และคอมมิชชั่นทั้งหมดที่ได้รับ
- บันทึกการจ่าย: บันทึกการจ่ายคอมมิชชั่นให้กับพนักงาน เพื่อความโปร่งใสและป้องกันข้อโต้แย้ง
- สื่อสารชัดเจน: สื่อสารโครงสร้างคอมมิชชั่น วิธีการคำนวณ และกำหนดการจ่ายให้กับพนักงานอย่างชัดเจน